คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ช้ัน 4 เคาน์เตอร์สายการ บิน Turkish เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอํานวยความสะดวก

ออกเดินทางจากสนามบินสุววรณภูมิ โดยสายการบิน Turkish เที่ยวบินที่TK065

เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคยี จากน้ันให้ท่านเปลยี่ นเคร่อืง

ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล โดยสายการบิน Turkish เที่ยวบินที่TK1055

เดินทางถึงสนามบินสนามบินซาเกรบ Zagreb ประเทศโครเอเชีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ช่ัวโมง) น าท่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel MAISTRA หรือระดับเดียวกัน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศสาธารณรัฐสโลเวเนีย Slovenia โดยเดินทางเข้าสู่ เมือง เบลด Bled เมืองแห่งโบสถ์กลางทะเลสาบสุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียน แอลป์ Julian Alps ซึ่งทะเลสาบเบลดเกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งจากภูเขาจูเลียนแอลป์ นำท่านนั่งเรือสู่เกาะกลางทะเลสาบ ผ่านชมปราสาทเบรด Bled Castle ตั้งอยู่ริมผาติดกับทะเลสาบ จัดเป็นปราสาทเก่าแก่ที่สุดในช่วงสมัยของจักรพรรดิ์เฮนริคที่ 2แห่งเยอรมัน ล่องเรือสู่เกาะกลางทะเลสาบ ที่ตั้งของโบสถ์พระแม่มารี Church of the Mother of God on the Lake หรือที่รู้จักกันในชื่อโบสถ์แสวงบุญแห่งอัสสัมชัญของพระมามารีหรือพระแม่แห่งทะเลสาบ ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ กลางทะเลสาบเบลด มีความสวยงามมากจนได้ลงในนิตยสารท่องเที่ยวของประเทศสโลเวเนียอยู่เสมอ ชมระฆังแห่งความปรารถนา ที่สร้างโดย Francesco Patavino จากปาโดวาเมื่อปี ค.ศ.1534 ตำนานเล่าว่าผู้ที่กดกริ่งและขอพรจะเห็นความปรารถนาของพวกเขาเป็นจริง แต่สามารถขอพรได้เพียงข้อเดียวเท่านั้น ความปรารถนา ที่สร้างโดย Francesco Patavino จากปาโดวาเมื่อปี ค.ศ.1534 ตำนานเล่าว่าผู้ที่กดกริ่งและขอพรจะเห็นความปรารถนาของพวกเขาเป็นจริง แต่สามารถขอพรได้เพียงข้อเดียวเท่านั้น *การล่องเรือทะเลสาบเบรด ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือเรืองดล่อง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับรายการเป็นการท่องเที่ยวหรือเข้าชมสถานที่อื่นทดแทน หรือคืนเงินค่าล่องเรือ*

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลุบเบลียน่า Ljubljana เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวีเนีย Slovenia สัมผัสบรรยากาศเมืองหลวงที่ยังคงให้ท่านได้เห็นร่องรอยของสถาปัตยกรรมโบราณ อิทธิ พลของศิลปะสไตล์บาโรก ชมเมืองลุบเบลียน่า Ljubljana ชมสะพานมังกร Dragon Bridge ที่ทอดข้ามแม่น้ำลุบเบลียยานิก้า สะพานแห่งแรกๆ ที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ของยุโรป หัวสะพานทั้งสองด้านประดับด้วยรูปปั้นมังกร แวะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในเมือง อาทิเช่น ศาลาว่าการเมือง, มหาวิหารเซนต์นิโคลัส, ปราสาทลุบเบลียน่า Ljubljana Castle, จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน Preseren Square, จัตุรัสสามสะพาน Triple Bridges Square และมหาวิหารลุบเบลียน่า Ljubljana Cathedral ให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองหลวงแห่งสโลวีเนีย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซาเกรบ Zagreb เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ดินแดนแห่งทะเลเอเดรียติค มีความเก่าแก่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง ซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันชาวโครเอเชียนมีวิถีชีวิตเหมือนชาวยุโรปทั่วไป ผู้คนนิยมใช้รถรางในการเดินทาง กรุงซาเกรบประกอบด้วยเขตเมือง Upper Town ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้มประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต Lower Town ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และเขตเมืองใหม่ New Town ที่สร้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel MAISTRA หรือระดับเดียวกัน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชม เมืองซาเกรบ Zagreb นครหลวงแห่งโครเอเชีย ถ่ายรูปมหาวิหารเซนต์สตีเฟน St. Stephen Cathedral ซึ่งมียอดแหลมทรงกลวยคู่หรือแบบนีโอ-โกธิค บนยอดวิหารตกแต่งอย่างงดงาม สามารถเห็นได้จากทุกมุมในซาเกรบ ชมตลาดกลางเมือง Dolac Market ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่มีสีสันสดใส มีดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูกวางขายมากมาย นำท่านสู่เขต Upper Town ถ่ายรูปกับวิหารเซนต์มาร์ก St. Marks Church ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าซาเกรบ หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีต่างๆ ซึ่งเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของซาเกรบ โครเอเชีย สโลเวเนีย และดัลมาเชีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศเดียวกัน (อดีตประเทศยูโกสลาเวีย) นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ประจำเมืองเก่าเซนต์แคทเธอรีน St. Catherine โบสถ์แบบบาโรกสีขาว นำท่านชมจุดชมวิวที่ท่านสามารถเห็นกรุงซาเกรบที่หลังคาอาคารเป็นสีแดงอิฐทั้งเมือง นำท่านแวะชมจัตุรัส Trg Ban Jelacic Square จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนำสมัย ชมอนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระจากชาวฮังกาเรียนเมื่อปี ค.ศ.1848

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ Plitvice National Park อุทยานที่มีความเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี ค.ศ.1979 อุทยานมีพื้นที่ประมาณ 29,482 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 295 ตารางกิโลเมตร โดย 223 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ป่าและพื้นน้ำครอบคลุมประมาณ 2.17 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ถึง 16 แห่งที่มีความงดงามแตกต่างกัน

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Palcich Hotel Plitvice หรือระดับเดียวกัน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติพริตวิเซ่ เพื่อเข้าชมความงามของอุทยาน นำท่านสู่ Lower lake โดยล่องเรือข้ามทะเลสาบ Jezero Kozjak ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนล่างขึ้นสู่ทะเลสาบชั้นบนของอุทยาน เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและความอลังการของ Lower lake ที่ประกอบด้วยทะเลสาบ Milanovac, Gavanovac และ Kaluderovac เป็นต้น นำท่านเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกัน แล้วเดินสู่ Veliki Slap หรือ Plitvice Waterfall ชมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานที่มีความสูงถึง 70 เมตร (แนะนำให้ท่านสวมรองเท้าผ้าใบ หรือ รองเท้าที่สวมใส่สบาย เนื่องจากต้องเดินชมความงามของธรรมชาติภายในอุทยาน)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาดาร์ Zadar เมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมาแล้ว และเป็นเมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลเอเดรียติค ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน ชมเมืองซาดาร์ นำท่านเข้าชมโบสถ์อนาสตาเชีย The Cathedral of St. Anastasia โบสถ์ประจำเมืองโรมันคาทอลิกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5-6 ในยุคโรมาเนสก์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นดัลมัลเชีย โบสถ์อนาสตาเชียได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สำคัญมากเนื่องจากพระสันตปาปา ถึง 2 พระองค์คือ พระสันตปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ได้เสด็จเยือนในปี ค.ศ.1177 และพระสันตปาปาจอห์นพอลที่ 2 ได้เสด็จเยือนโบสถ์นี้ในปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งสุดท้ายของพระองค์ท่าน นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์โดแนท จากนั้นชมโรมันฟอรัมหรือย่านชุมชนของโรมันเมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีได้ใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆทั้งที่อยู่อาศัยชาวโรมัน

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel Kolovare หรือระดับเดียวกัน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองซิเบนิค Sibenik เมืองเก่ามรดกโลกแห่งทะเล เอเดรียติค นำท่านชม จัตุรัสเมืองเก่าซิเบนิค ที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านขายยา ร้านแว่นตา ร้านเสื้อผ้าบูติกและอีกมากมาย เมืองซิเบนิคแตกต่างจากเมืองริมฝั่งทะเลอะเดรียติกทั่วไปเพราะสร้างโดยชาวกรีก ก่อนที่โรมันจะเข้ามามีอิทธิพล ต่อมาภายหลังตกเป็นเมืองขึ้นของเวเนเชียนหรือเวนิซ ทุกวันนี้จึงยังเห็นสถาปัตยกรรมหลายแห่งทั่วเมืองจะกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายสไตล์เวเนเชียนอย่างชัดเจน ถ่ายรูปกับชมมหาวิหารเซนต์เจมส์หรือมหาวิหารเซนต์จาคอบ คืออีกหนึ่งมรดกโลกของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ที่เมืองซิเบนิคบนชายฝั่งดัลเมเชียน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมการส่อสร้างในแบบผสมระหว่างศิลปะทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ดัลเมเชีย และทัสคานี เนื่องจากใช้สถาปนิกในการออกแบบถึง 3 คน และมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน โดยสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1535 ด้วยโครงสร้างที่มาจากหินปูนสีขาวล้วนๆ ไม่มีวัสดุอื่นปลอมปน ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นนักบุญเจมส์หรือจาคอบตามภาษาโครแอต ซึ่งเป็น 1 ใน 12 สาวกของพระเยซู

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสปลิท Split เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากซาเกรบ ซึ่งอยู่ในแคว้นดัลเมเชีย อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง นำท่านชมเมืองสปลิท ที่สร้างรายล้อมพระราชวัง ดิโอคลีเธี่ยน ประกอบด้วย ศาลาว่าการเมืองสไตล์เรเนซองค์ สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ ชมย่าน People Square ศูนย์กลางทางธุรกิจและการบริหาร นำท่าน เข้าชมพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน Diocletian Palace องค์การยูเนสโก UNESCO ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยนแห่งโรมัน ซึ่งต้องการสร้างพระ ราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ หลังจากสละบัลลังก์ ภายในพระราชวังประกอบด้วย วิหารจูปิเตอร์ สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียง Catacombas และวิหารต่างๆ นำท่านชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้าง Peristyle ซึ่งล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม ชมยอดระฆังแห่งวิหาร The Cathedral Belfry แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาดิอุสซึ่งอยู่ภายในวิหาร

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel MONDO หรือระดับเดียวกัน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองสตอน Ston เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองดูบรอฟนิค เป็นเมืองที่เปรียบเสมือนตัวแทนของประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมยุคกลางคือกำแพงเมืองโบราณ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อล้อมรอบเมือง โดยกำแพงโบราณแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างกำแพงนี้ประมาณ 200 ปี มีความยาวมากกว่า 5.5 กิโลเมตร แม้ว่าในอดีตนั้นตัวกำแพงเคยถูกระเบิดในสงครามปี ค.ศ.1991 และแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1996 แต่ก็สามารถคงอยู่มาจนได้ถึงทุกวันนี้ และยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารทะเลเลิศรส และมีฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมที่มีชื่อเสียง ให้ท่านชิมหอยนางรมสดๆ จากฟาร์มและผลิตภัณฑ์จากหอยนางรมสดๆ จากทะเลเอเดรียติค ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (เมนูสเต็กปลาทูน่า)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค Dubrovnik ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเล ที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ เมืองดูบรอฟนิคได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานาม “ไข่มุกแห่งทะเล เอเดรียติก” เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง สร้างโบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และบ้านเรือนต่างๆ และได้รับการบูรณะและปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย โดยองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองดูบรอฟนิคเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 นำท่านเดินขึ้นชมทัศนียภาพของเมืองดูบรอฟนิคบนกำแพงเมือง City Walls of Dubrovnik ชมความงามริมฝั่งทะเลเอเดรียติค ชมตัวเมืองเก่าและป้อมปราการโบราณกำแพงมีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ล้อมรอบตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ความโด่งดังเทียบได้กับแกรนด์คาแนลแห่งเกาะเวนิส จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel ADRIAหรือระดับเดียวกัน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านนั่งกระเช้าสู่จุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองดูบรอฟนิค ท่านจะได้ถ่ายรูปเมืองเก่าดูบรอฟนิคจากมุมสูง ภูมิทัศน์ที่รายล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสดุจราวแสงสะท้อนของคริสตอลโอบล้อมเมืองเก่าไว้ ด้วยความสวยงามของบ้านเรือนสีขาว มุงด้วยหลังคาสีส้ม อันเป็นภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองดูบรอฟนิกที่พลาดไม่ได้ (การขึ้น-ลงกระเช้า ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ กรณีลมแรงหรือหมอกลงหนา กระเช้าอาจปิดทำการ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนการเข้าชมสถานที่อื่นแทนหรือคืนเงินค่ากระเช้า)

จากนั้นนำท่านชมเมืองดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามริมฝั่งทะเลเอเดรียติค ที่ตัวเมืองเก่ามีป้อมปราการโบราณความยาว 190 เมตรล้อมรอบ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ความโด่งดังเทียบได้กับแกรนด์แคนย่อนหรือแกรนด์คาแนลแห่งเวนิส นำท่านเดินลอดประตู Pile Gate ที่มีรูปปั้นของนักบุญเซ้นต์เบลส นักบุญประจำเมือง เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองเก่า ชมน้ำพุ Onofrio ซึ่งตั้งเป็นเกียรติแก่สถาปนิกผู้สร้างน้าพุแห่งนี้ นำท่านชม The Cathedral หนึ่งในโบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองเก่าที่สะสมโบราณวัตถุของพ่อค้าวาณิชที่ได้ทำการค้าขายกับชาวเวนิชในอดีต นำท่านถ่ายรูปกับหอนาฬิกาโบราณ Bell Tower Clock จากนั้นนาท่านแวะถ่ายรูปกับ พระราชวังเรคเตอร์ Rector’s Palace พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยผสมผสานศิลปะทั้งแบบโกธิค เรอแนสซองส์และบาโรคไว้ด้วยกัน แวะถ่ายรูปกับ สปอนซา พาเลส Sponza Palace สร้างขึ้นโดยศิลปะแบบโกธิค-เรอแนสซองส์ ในสมัยศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้ใช้เป็นที่จัดเก็บเอกสารและสานักงานส่วนราชการ นำท่านเดินผ่านถนนสตราดัน ถนนสายหลักยาวกว่า 398 เมตร ที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยอาคารสไตล์โรมัน-โกธิค และร้านค้า ร้านกา แฟ ร้านไอศกรีม ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ มากมาย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโมสตาร์ Mostar หนึ่งเมืองประวัติศาสตร์แสนสวยที่มีชื่อเสียงมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 และเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา นำท่านชม สะพานโบราณ หรือ สตารี โมสท์ Old Bridge Stari Most สะพานที่ถูกสร้างขึ้นจากหิน โดยมีความสูงจากระดับน้ำ ซึ่งวัดได้ในช่วงฤดูร้อนประมาณ 21 เมตร ถูกสร้างขึ้นโดยชาวออตโตมันในช่วงศตวรรษที่ 16 และได้ถูกทำลายไปในปี ค.ศ.1993 ต่อมาในปี ค.ศ.2004 สะพานเก่าและอาคารหลายหลังในเมืองเก่าในบริเวณใกล้เคียงได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากคณะกรรมการวิชาการระหว่างประเทศของยูเนสโก องค์การยูเนสโก UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนสะพานโบราณรวมไปถึง บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่ใกล้เคียงที่สุดของสะพานให้อยู่ในรายชื่อมรดกโลกของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเมื่อปี ค.ศ.2005 นำท่านชม ย่านเมืองเก่า Old Town ซึ่งอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมพรี-ออตโตมัน, ออตโตมมันตะวันออก, เมดิเตอร์เรเนียนและยุโรปตะวันตก ถ่ายรูปกับ มัสยิดโกสกี้ เมห์เมดปาซ่า Koski Mehmed Paša Mosque มัสยิดออตโตมันขนาดเล็กสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1751 หลังถูกทำลายลงช่วงสงครามบอสเนีย สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของมัสยิดคือหอคอยสุเหร่าที่ตั้งสูงตระหง่านเหนือตัวเมือง

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก CITY Hotel Mostar หรือระดับเดียวกัน

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาราเจโว Sarajevo เมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ฉายายูซาเล็มแห่งคาบสมุทรบอลข่าน เนื่องด้วยเคยตกอยู่ภายใต้อาณาจักออตโตมันในอดีตและมีผู้คนหลายเชื้อชาติมากมาย ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้ประกอบไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา มีเสน่ห์ทางด้านวัฒนธรรมอย่างยิ่ง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่าบาสคาซิจา Bascarsija อดีตเคยเป็นย่านบาซาร์เก่าแก่ของยุคออตโตมัน ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเมืองซาราเจโว ตั้งอยู่ในส่วนเมืองเก่าของซาราเจโว ออกแบบในสไตล์ออตโตมัน-เตอร์กิช เต็มไปด้วยร้านค้าของที่ระลึก ร้านกาแฟ บาซาร์ที่ขายสินค้าหลากหลายชนิด จากนั้นนำท่านชม ย่านสตารี กราด Stari Grad ย่านที่มีสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ อาทิเช่น สถาปัตยกรรมแบบบอสเนีย ออตโตมัน ออสโตร-ฮังกาเรียน เป็นต้น ชมความสวยงามจากภายนอกของ สุเหร่า Gazi Husrev-Beg Mosque ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าแบบออตโตมันที่สำคัญที่สุดในเมืองซาราเยโว จากนั้นชม มหาวิหารประจำเมืองซาราเจโว มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในบอสเนียและเฮอร์ เซโกวินาเป็นที่ประจำตำแหน่งของพระราชาคณะของเมืองสร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โก ธิค ในช่วงปี ค.ศ.1884-1889 นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์คริสต์ออโธด๊อกซ์ที่สร้างอย่างยิ่งใหญ่ ภายในบริเวณเดียวกัน รวมถึงโบสถ์ของชาวยิวหรือซีนากอฟ ขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่ภายในย่านนี้ นำท่านชม สะพานลาติน Latin Bridge ซึ่งเป็นจุดที่อาร์ค ดยุค ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Franz Ferdinand) รัชทายาทแห่งราชวงศ์ออสเตรียถูกลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 28 มิ.ย.1914 โดยชาวซาราเยโวนายหนึ่ง จนกลายเป็นชนวนเหตุในการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1

ให้ท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินซาราเจโว

ออกเดินทางจากสนามมบินซาราเจโว โดยสายการบิน Turkish เที่ยวบินที่ TK1026

เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย ให้ท่านรอเปลี่ยนเครื่อง

ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล โดยสายการบิน Turkish เที่ยวบินที่ TK068

เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ.